รู้ไหมว่าการกินแอปเปิ้ลเพิ่มอีกสัก 2-3 ลูก (หรือจะเป็นบร็อคโคลี แตงกวา กล้วย หรือถั่วฝักยาวก็ได้) อาจจะช่วยให้คุณไม่ต้องไปหาหมอ โดยเฉพาะคนที่มีความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและไต จากงานวิจัยล่าสุดเลยนะ!
ดร.โดนัลด์ เวสสัน จากมหาวิทยาลัยเทกซัส ออสติน ได้ทำการศึกษาเพื่อดูว่าการลดกรดในอาหารของเราสามารถลดความเสี่ยงจากโรคไตและหัวใจที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงได้หรือไม่ อาหารจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ มักทำให้เกิดกรด ในขณะที่ผักและผลไม้จะทำให้เกิดด่าง ซึ่งเป็นผลดีต่อร่างกาย
ในงานวิจัยนี้ ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม: กลุ่มแรกเพิ่มผักและผลไม้ 2-4 ถ้วยต่อวัน กลุ่มที่สองกินเบกกิ้งโซดาเพื่อลดกรด และกลุ่มที่สามใช้วิธีดูแลปกติ ผลลัพธ์หลัง 5 ปีแสดงให้เห็นว่าทั้งการกินผักผลไม้และการกินเบกกิ้งโซดาช่วยให้ไตสุขภาพดีขึ้น แต่ผักผลไม้ยังช่วยเรื่องสุขภาพหัวใจอีกด้วย
สรุปเลยว่าการมีผักและผลไม้ในมื้ออาหารของเราควรเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีความดันโลหิตสูง แต่ถึงคุณจะไม่มีความดันโลหิตสูง การเพิ่มผักผลไม้ในอาหารก็ยังดีต่อสุขภาพอยู่ดี!
สมาคมโรคหัวใจอเมริกันแนะนำให้กินผักและผลไม้ 4-5 หน่วยบริโภคต่อวัน ซึ่งอาจจะเป็นกล้วยหนึ่งลูก สตรอว์เบอร์รี 4 ลูกใหญ่ หรือผักใบเขียว 1 ถ้วย ถ้าจะให้ดีลองทำตามแผนอาหาร DASH ที่เน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากพืชและสัตว์อย่างสมดุล
ถ้าคุณเบื่อผักสดๆ ลองเพิ่มรสชาติด้วยสมุนไพร ซอส หรือเครื่องเทศ เพื่อทำให้ผักน่าสนใจขึ้นก็ได้ ดร.คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด บอกว่าตอนนี้เชฟหลายคนเริ่มหันมาทำผักให้อร่อยโดยไม่ต้องขอโทษแล้ว!
แม้ว่าบางชุมชนอาจจะเข้าถึงผักผลไม้สดได้ยาก แต่การเพิ่มผักผลไม้เข้าไปในอาหารยังคงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการจัดการกับโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ ดังนั้นครั้งหน้าที่คุณไปซื้อของ ลองหยิบผักผลไม้เพิ่มดูสิ ร่างกายคุณจะขอบคุณ! 🍎🥦
Comentarios